บทคัดย่อ (Abstract)

โรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี ๑ (ดอนสักผดุงวิทย์) ได้เข้าร่วมโครงการเพิ่มสมรรถนะด้านการบริหารและจัดการพลังงานครบวงจรในชุมชนระดับตำบลและวิสาหกิจชุมชน ปีงบประมาณ ๒๕๖๒ ประเภทโรงเรียนต้นแบบพลังงานชุมชน เพื่อเสริมสร้างจิตสำนึก ส่งเสริมและถ่ายทอดเทคโนโลยีที่เหมาะสมด้านการอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทนสำหรับคณะครู บุคลากรทางการศึกษา และเยาวชนในสถานศึกษา เป็นแนวทางในการลดใช้พลังงาน และสนับสนุนแผนอนุรักษ์พลังงาน ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๔๔ – ๒๕๗๓) ของกระทรวงพลังงาน ซึ่งข้าพเจ้าได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ดำเนินโครงการโรงเรียนพลังงานชุมชนในส่วนของการผลิตก๊าซ เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนตระหนักถึงการใช้พลังงานอย่างรู้คุณค่า การรู้จักกินรู้จักใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมไปถึงการส่งเสริมความเป็นเลิศทักษะทางวิชาการของผู้เรียนอีกด้วย

ข้าพเจ้าจึงสนใจที่จะทำการศึกษาออกแบบและสร้าง ชุดอุปกรณ์ผลิตก๊าซชีวภาพทั้งในระบบการทดลองแบบแบทช์และแบบต่อเนื่อง เพื่อใช้ประกอบการจัดการเรียนการสอนตามแผนบูรณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง รวมไปถึงการใช้เป็นหัวข้อหลักในการศึกษาในรูปแบบโครงงานวิทยาศาสตร์ เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นบูรณาการ 5 ทักษะ ซึ่งจะสอดแทรกเนื้อหา ความสามารถทางกระบวนการคิด วิเคราะห์ ตามวิธีการทางวิทยาศาสตร์ที่ถูกต้อง โดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ซึ่งจะให้ผู้เรียนเป็นผู้ตั้งสมมุติฐานเพื่อหาวัตถุดิบมาใช้ในกระบวนการ ภายใต้ข้อกำหนดคือ การแก้ไขมลพิษต่างๆอันเกิดจากศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ชุมชน และ ภูมิภาค เพื่อปลูกฝังให้ผู้เรียนมีความกล้าคิด กล้าแสดงออกในการเริ่มตั้งประเด็นปัญหา สืบเสาะ ค้นหาคำตอบของแนวทางการแก้ไขประเด็นปัญหาตามกระบวนการทางวิทยาศาสตร์อย่างมีเหตุผลบนพื้นฐานของความรู้ ความสามารถของผู้เรียน ปลูกฝังความคิดแบบนักวิจัยโดยการส่งเสริมให้ผู้เรียนศึกษางานวิจัยเพื่อศึกษาถึงข้อมูลพื้นฐาน ความเป็นไปได้ของการผลิตก๊าซชีวภาพ จนนำไปสู่กระบวนการออกแบบการทดลอง การดำเนินการทดลองที่ถูกต้องและตามหลักสถิติ นำไปสู่การวิเคราะห์ผลสรุปผลที่ถูกต้อง จนทำให้ในระยะเวลา 3 ภาคการศึกษา ที่ดำเนินงานสามารถพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นบูรณาการ 5 ทักษะของผู้เรียนซึ่ง พบว่ามีนักเรียนจำนวน 28 คน สามารถผ่านเกณฑ์พัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นบูรณาการ 5 ทักษะ คิดเป็น 93.33 % และ ไม่ผ่านเกณฑ์จำนวน 2 คน คิดเป็น 6.67% และภายหลังจากการจัดกิจกรรมสอนซ่อมเสริม พบว่า นักเรียนสามารถผ่านเกณฑ์ที่กำหนดได้ครบ 100 % นอกจากนี้ผู้เรียนกลุ่มผู้มีความสามารถพิเศษยังได้รับรางวัลต่างๆในการเข้าแข่งขันโครงงานวิทยาศาสตร์ในหลายๆรายการแข่งขันอีกด้วย

เอกสารฉบับสมบูรณ์

• เอกสารผลงานวิจัย ส่วนที่ 1 ดาวน์โหลดเอกสาร