รูปแบบการพัฒนาการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) โดยใช้ 5G Model ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพะเยา เขต 1
A Development Model for Active Learning Based on the 5G Model: A Case Study of Phayao Primary Educational Service Area Office 1

: ชื่อผู้วิจัย นาย ธงชัย คำปวง
: ตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพะเยา เขต 1
: ครูและบุคลากรทางการศึกษา
: ปี 2568
: 4

logo onec

บทคัดย่อ (Abstract)

การวิจัย เรื่อง รูปแบบการพัฒนาการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) โดยใช้

5G Model ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพะเยา เขต 1 มีวัตถุประสงค์หลัก

เพื่อพัฒนารูปแบบการพัฒนาการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) โดยใช้ 5G Model ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพะเยา เขต 1 และมีวัตถุประสงค์เฉพาะเพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานสำหรับการพัฒนารูปแบบการพัฒนาการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) โดยใช้

5G Model ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพะเยา เขต 1 2) สร้างและตรวจสอบรูปแบบการพัฒนาการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) โดยใช้ 5G Model ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพะเยา เขต 1 3) ทดลองใช้รูปแบบการพัฒนาการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) โดยใช้ 5G Model ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพะเยา เขต 1

และ 4) ประเมินรูปแบบการพัฒนาการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) โดยใช้ 5G Model ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพะเยา เขต 1 มีวิธีการดำเนินการวิจัย ดังนี้ ระยะที่ 1 การศึกษาข้อมูลพื้นฐานสำหรับการพัฒนารูปแบบการพัฒนาการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) โดยใช้ 5G Model ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพะเยา เขต 1 ประกอบด้วย 2 ขั้นย่อย ได้แก่ ขั้นที่ 1 การสังเคราะห์แนวคิด ทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) เครื่องมือ ได้แก่ แบบสังเคราะห์เอกสาร ขั้นที่ 2 การศึกษาแนวทาง

การพัฒนาการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) โดยการสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 5 คน เครื่องมือ ได้แก่ แบบสัมภาษณ์ ระยะที่ 2 การสร้างและตรวจสอบรูปแบบการพัฒนาการจัด

การเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) โดยใช้ 5G Model ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพะเยา เขต 1 ประกอบด้วย 2 ขั้นย่อย ได้แก่ ขั้นที่ 1 การยกร่างรูปแบบการพัฒนา

การจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) โดยใช้ 5G Model ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพะเยา เขต 1 ขั้นที่ 2 การตรวจสอบความเหมาะสมของรูปแบบการพัฒนาการจัด

การเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) โดยใช้ 5G Model ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพะเยา เขต 1 โดยผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 5 คน เครื่องมือ ได้แก่ แบบประเมิน

ความเหมาะสมของรูปแบบและคู่มือการใช้รูปแบบ ระยะที่ 3 การทดลองใช้รูปแบบการพัฒนาการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) โดยใช้ 5G Model ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพะเยา เขต 1 ประชากรที่ใช้ ได้แก่ ครูผู้สอน จำนวน 624 คน และผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 71 คน เครื่องมือ ได้แก่ 1) แบบทดสอบความรู้ด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูผู้สอน 2) แบบประเมินความสามารถในการออกแบบแผนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning)ของครูผู้สอน 3) แบบประเมินความสามารถในการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning)ของครูผู้สอน 4) แบบประเมินตนเองของผู้บริหารสถานศึกษาในการส่งเสริมการจัด

การเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) 5) รายงานผลการประเมินการบริหารและการจัดการศึกษา

ขั้นพื้นฐานของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาตามประเด็นที่สอดคล้องกับนโยบายและจุดเน้น นโยบาย

ระยะเร่งด่วน และตัวชี้วัดแผนปฏิบัติการของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 และ 6) รายงานผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียน และระยะที่ 4

การประเมินรูปแบบการพัฒนาการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) โดยใช้ 5G Model

ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพะเยา เขต 1 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ ได้แก่ ผู้อำนวยการสถานศึกษา จำนวน 60 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง ศึกษานิเทศก์ จำนวน 14 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง และครูผู้สอน จำนวน 142 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง โรงเรียนละ 2 คน

เครื่องมือ ได้แก่ แบบประเมินความเป็นประโยชน์ของรูปแบบ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการหาค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัย พบว่า

1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานสำหรับการพัฒนารูปแบบการพัฒนาการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) โดยใช้ 5G Model ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพะเยา เขต 1 พบว่า

1.1 ผลการสังเคราะห์เอกสาร โดยการศึกษาหลักการ แนวคิด และสาระสำคัญ

ที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำมากำหนดแนวทางในการพัฒนาการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning)

ในประเด็นดังต่อไปนี้ ประเด็นที่ 1 นโยบายที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษา ประกอบด้วย นโยบายรัฐบาลด้านการศึกษาประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566–2567 ยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ. 2561–2580)

แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ. 2561–2580) แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566–2570) แผนการปฏิรูปประเทศภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ. 2561-2580) แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560–2579 ด้านนโยบายการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566–2567 ด้านนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษา

ขั้นพื้นฐาน และบริบทของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพะเยา เขต 1 ประเด็นที่ 2

แนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนารูปแบบ เป็นกระบวนการในการสร้างและพัฒนารูปแบบโดยใช้แนวคิดเกี่ยวกับทฤษฎีระบบ ประกอบด้วย 4 องค์ประกอบ คือ 1) ปัจจัยนำเข้า (Input) 2) กระบวนการ (Process) 3) ผลผลิต (Output) และ 4) ข้อมูลป้อนกลับ (Feedback) โดยมีขั้นตอนของการพัฒนารูปแบบ การสร้างและพัฒนารูปแบบ กระบวนการนี้เริ่มต้นด้วยการศึกษาเอกสาร ทฤษฎี และงานวิจัยที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นระบบ ควบคู่ไปกับการศึกษาบริบทจริงผ่านวิธีการต่าง ๆ และการตรวจสอบรูปแบบ ซึ่งเป็นการประเมินเพื่อหาความตรง (Validity) รวมถึงตรวจสอบประสิทธิภาพและประสิทธิผลของรูปแบบที่สร้างขึ้น ประเด็นที่ 3 แนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาครู การพัฒนาครูในปัจจุบันมุ่งไปสู่การให้ครูมีส่วนร่วมและมีโอกาสเลือกในสิ่งที่ต้องการพัฒนา โดยใช้ปัญหาจริงในโรงเรียน

เป็นฐาน อาทิ การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ (Training) การพัฒนาตนเอง (Individually Guided)

การสังเกตและระบบพี่เลี้ยง (Observation and Mentoring) และการนิเทศภายใน (Internal Supervision) เป็นต้น และอาศัยกระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) เพื่อให้เกิด

การพัฒนาที่ยั่งยืน ประเด็นที่ 4 แนวคิดการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) เป็นการจัด

การเรียนรู้ที่เปลี่ยนบทบาทของผู้เรียนจากการเป็นผู้รับความรู้มาเป็นผู้มีส่วนร่วมในการปฏิบัติกิจกรรม กระบวนการนี้จะช่วยให้ผู้เรียนได้เผชิญและแก้ปัญหาตามสภาพจริง ซึ่งนำไปสู่การพัฒนาทักษะการคิดขั้นสูง สำหรับครูผู้สอนการจัดการเรียนรู้เชิงรุกช่วยกระตุ้นให้ครูต้องแสวงหากิจกรรมและวิธีการที่หลากหลายเพื่อเสริมสร้างศักยภาพของผู้เรียนแต่ละคน ส่งผลให้ผู้สอนได้พัฒนาทักษะและความเชี่ยวชาญในการสอนของครูไปพร้อมกับการพัฒนาผู้เรียนอีกด้วย

1.2 ผลการศึกษาแนวทางการพัฒนาการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning)

โดยการสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อนำมากำหนดแนวทางในการพัฒนาการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ในประเด็นดังนี้ ประเด็นที่ 1 ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จในการจัดการเรียนรู้

เชิงรุก (Active Learning) สู่การปฏิบัติให้เกิดความสำเร็จ ได้แก่ นโยบายของชาติ การบริหารจัดการ (4M) ได้แก่ บุคคล (Man) งบประมาณ (Money) เครื่องมือ (Material) และการจัดการ (Management) และคุณธรรม จริยธรรม ในการบริหารการจัดการศึกษา ประเด็นที่ 2 กระบวนการพัฒนาการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) จะต้องมีการวางแผนการทำงานในระดับเขตพื้นที่ เพื่อนำนโยบายสู่การปฏิบัติ มีการตั้งเป้าหมายการพัฒนาร่วมกันของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง พัฒนาครูผู้สอนให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้เชิงรุก พัฒนาการออกแบบการจัดการเรียนรู้

ของครูผู้สอน พัฒนาการจัดการเรียนการสอนตามแนวทางการจัดการเรียนรู้เชิงรุก มีการนิเทศ ติดตาม ช่วยเหลือ สะท้อนผลการจัดการเรียนรู้ให้ครูผู้สอนอย่างต่อเนื่อง มีการคัดเลือกครูผู้สอนที่มีวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) ด้านการจัดการเรียนรู้ และจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ให้กับครูผู้สอน ประเด็นที่ 3 การจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ที่มีประสิทธิภาพ ควรมีการพัฒนา

อย่างรอบด้าน ด้วยความร่วมมือของทุกภาคส่วนเพื่อให้เกิดคุณภาพของผู้เรียน คุณภาพการสอน

ของครู โรงเรียนมีคุณภาพตามมาตรฐาน คุณภาพของผู้บริหาร และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา

มีคุณภาพตามมาตรฐาน ประเด็นที่ 4 การพัฒนาการจัดการเรียนรู้เชิงรุกให้เกิดความยั่งยืน

ควรมีการสะท้อนผลการพัฒนาโดยผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง และในประเด็นที่ 5 ข้อเสนอแนะจากผู้ทรงคุณวุฒิเกี่ยวกับผลที่เกิดจากการจัดการเรียนรู้เชิงรุกในมิติอื่น ๆ นอกจากนักเรียนและครูผู้สอน ประกอบด้วย ผู้อำนวยการโรงเรียน สถานศึกษา และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา

2. ผลการสร้างและตรวจสอบรูปแบบการพัฒนาการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) โดยใช้ 5G Model ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพะเยา เขต 1 พบว่า

2.1 ผลการสร้างรูปแบบการพัฒนาการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) โดยใช้ 5G Model ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพะเยา เขต 1 จากการสังเคราะห์เอกสารงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง และการสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิ ทำให้ได้องค์ประกอบของรูปแบบ 4 องค์ประกอบ คือ องค์ประกอบที่ 1 ด้านปัจจัยนำเข้า (Input) ประกอบ 1) ด้านนโยบายรัฐบาล 2) ด้านนโยบายการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566–2567 3) ด้านนโยบาย

ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 4) ด้านนโยบายของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพะเยา เขต 1 แนวคิดด้านการบริหารจัดการ (4M) และคุณธรรม จริยธรรม

ในการบริหารการจัดการศึกษา องค์ประกอบที่ 2 ด้านกระบวนการ (Process) ประกอบด้วย ขั้นที่ 1 GKM = Good Knowledge Management (การจัดการความรู้ที่ดี) ขั้นที่ 2 GT = Good Teacher

(การพัฒนาครูเพื่อสร้างครูต้นแบบ) ขั้นที่ 3 GP = Good Project (การออกแบบนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้) ขั้นที่ 4 GK = Good Knowledge (การเพิ่มพูนความรู้ ทักษะ และประสบการณ์) ขั้นที่ 5 GKS = Good Knowledge Sharing (การขยายเครือข่ายแห่งการเรียนรู้) องค์ประกอบที่ 3

ด้านผลผลิต (Output) ประกอบด้วย 1) นักเรียนคุณภาพ 2) ครูคุณภาพ 3) ผู้บริหารคุณภาพ

4) โรงเรียนคุณภาพ และ 5) เขตพื้นที่การศึกษาคุณภาพ และองค์ประกอบที่ 4 ด้านข้อมูลป้อนกลับ (Feedback)

2.2 ผลการตรวจสอบความเหมาะสมของรูปแบบการพัฒนาการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) โดยใช้ 5G Model ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพะเยา

เขต 1 โดยผู้ทรงคุณวุฒิโดยภาพรวมมีความเหมาะสมในระดับมากที่สุด

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการพัฒนาการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) โดยใช้ 5G Model ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพะเยา เขต 1 พบว่า

3.1 ด้านนักเรียนคุณภาพ ผลการประเมินพัฒนาการของนักเรียนระดับปฐมวัย

ปีการศึกษา 2567 สูงกว่าปีการศึกษา 2566 และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ การอ่าน คิดวิเคราะห์ เขียน และสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีการศึกษา 2567

สูงกว่าปีการศึกษา 2566

3.2 ด้านครูคุณภาพ 1) ผลการทดสอบความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้

เชิงรุก (Active Learning) ของครูผู้สอนหลังการทดลองใช้รูปแบบสูงกว่าก่อนการทดลองใช้รูปแบบ

2) ผลการประเมินความสามารถในการออกแบบแผนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning)

ของครูผู้สอน อยู่ในระดับมากที่สุด 3) ผลการประเมินความสามารถในการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูผู้สอนอยู่ในระดับมาก

3.3 ด้านผู้บริหารคุณภาพ ผลการประเมินตนเองของผู้บริหารสถานศึกษาในการส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) อยู่ในระดับมากที่สุด

3.4 ด้านโรงเรียนคุณภาพ ผลการประเมินสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาคุณภาพ

ตามประเด็นที่สอดคล้องกับนโยบายและจุดเน้น นโยบายระยะเร่งด่วน และตัวชี้วัดแผนปฏิบัติการ

ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ในประเด็นที่ 15 การประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา ระดับการศึกษาปฐมวัยและระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน อยู่ในระดับดีเยี่ยม

3.5 ด้านสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาคุณภาพ ผลการประเมินสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาคุณภาพ ตามประเด็นที่สอดคล้องกับนโยบายและจุดเน้น นโยบายระยะเร่งด่วน และตัวชี้วัดแผนปฏิบัติการของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 อยู่ในระดับดีเยี่ยม โดยประเด็นที่ 4 ผู้เรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 อยู่ในระดับดีเยี่ยม ประเด็นที่ 5 การประเมินพัฒนาการ

ของผู้เรียนปฐมวัย อยู่ในระดับดีเยี่ยม ประเด็นที่ 6 การพัฒนาผู้เรียนให้มีสมรรถนะและทักษะ

ที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 อยู่ในระดับดีเยี่ยม และประเด็นที่ 10 การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการวัดผลด้วยวิธีที่หลากหลายอยู่ในระดับดีมาก

4. ผลการประเมินรูปแบบการพัฒนาการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) โดยใช้ 5G Model ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพะเยา เขต 1 พบว่า มีผลการประเมิน

ด้านความเป็นประโยชน์อยู่ในระดับมากที่สุด









`

รูปแบบการพัฒนาการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) โดยใช้ 5G Model ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพะเยา เขต 1A Development Model for Active Learning Based on the 5G Model: A Case Study of Phayao Primary Educational Service Area Office 1 is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 3.0 License.