กระบวนการสร้างชุดการสอนวิทยาศาสตร์เพื่อพัฒนาความสามารถการคิดเชิงเหตุผลสำหรับนักเรียนมัธยมศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาร้อยเอ็ด เขต 3 : การวิจัยแบบร่วมมือ
The Constructional Process on Science Teaching and Learning Activity Module to Reasoning Ability Development for Mattayomsuksa Student Roi-Et Education Service Area Office 3 ; Collaborative Research

: ชื่อผู้วิจัย นางสุรินธร วังคะฮาด
: ตำแหน่ง -
: ประถม - มัธยมศึกษา
: ปี 2554
: 380

logo onec

บทคัดย่อ (Abstract)

การศึกษากระบวนการสร้างชุดการสอนวิทยาศาสตร์เพื่อพัฒนาความสามารถการคิดเชิงเหตุผลสำหรับนักเรียนมัธยมศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาร้อยเอ็ด เขต ๓ ; การวิจัยแบบร่วมมือ มีวัตถุประสงค์เพื่อ ๑. เพื่อสร้างชุดการสอนเพื่อพัฒนาความสามารถการคิดเชิงเหตุผลของนักเรียน ๒. เพื่อศึกษากระบวนการสร้างและผลการใช้ชุดการสอนเพื่อพัฒนาความสามารถการคิดเชิงเหตุผลของนักเรียน

๓. เพื่อเปรียบเทียบความสามารถการคิดเชิงเหตุผลของนักเรียนก่อนการเรียนกับหลังการเรียนโดยใช้ชุดการสอนเพื่อพัฒนาความสามารถการคิดเชิงเหตุผล การดำเนินการวิจัย มี ๓ ขั้นตอนคือ ๑. การสร้างความรู้ ความเข้าใจ เรื่องความสามารถการคิดเชิงเหตุผลและการสร้างชุดการสอนเพื่อพัฒนาความสามารถการคิดเชิงเหตุผลของนักเรียน ๒. กระบวนการสร้างและผลการใช้ชุดการสอนเพื่อพัฒนาความสามารถการคิดเชิงเหตุผลของนักเรียน ๓. เพื่อเปรียบเทียบความสามารถการคิดเชิงเหตุผลของนักเรียนก่อนการเรียนกับหลังการเรียนโดยใช้ชุดการสอนเพื่อพัฒนาความสามารถการคิดเชิงเหตุผล เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยมี ๒ ลักษณะ คือ ๑. เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงคุณภาพพหุวิธีการ ได้แก่ การเก็บรวบรวมภาคสนามด้วยแบบบันทึกภาคสนาม การสังเกตแบบมีส่วนร่วม การสัมภาษณ์แบบกึ่งมีโครงสร้าง การบันทึกภาพ และการศึกษาวิเคราะห์เอกสาร เป็นต้น ๒. เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงปริมาณได้แก่ ชุดการสอนวิทยาศาสตร์ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่มีค่าอำนาจจำแนก ๐.๒๐-๐.๔๐ และค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบอิงเกณฑ์โดยใช้สูตรลิวิงสตัน มีค่าเท่ากับ ๐.๙๙ ค่าความยากงาย ระหว่าง ๐.๒๖-๐.๗๙ จำนวน ๓๐ ข้อ แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ที่มีค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ ๐.๓๒-๐.๗๖ และวิเคราะห์หาค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ ๐.๘๙ และชุดกิจกรรมทดสอบความสามารถการคิดเชิงเหตุผลของนักเรียนของ Robert Karplus (๑๙๗๗) แปลและตรวจสอบความตรงของเนื้อหาโดยผู้เชี่ยวชาญ

ผลการวิจัยพบว่า กระบวนการวิจัยแบบร่วมมือทำให้ผู้วิจัยสามารถพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้ และการสร้างชุดการสอนที่สามารถพัฒนาความสามารการคิดเชิงเหตุผลของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาได้ โดยนวัตกรรมการเรียนรู้ ที่มีชื่อว่า กิจกรรมการเรียนรู้บูรณาการปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (CDSC MODEL) ที่ประกอบด้วย ๔ ระยะการเรียนรู้สำคัญคือ ๑. ขั้นนำและกระตุ้นบทเรียน (Comprehensive Allegory Phase) = C ๒. ขั้นสมมติฐานการคิดแบบนิรนัย (Hypothetical Deductive Thinking Phase) = D ๓. ขั้นบูรณาการคิดปรัชญาของเศรษฐกิจพอพียง (Sufficiency Phase) = S ๔. ขั้นประเมินผลและลงข้อสรุป (Meaningful Assessment and Conclusion Phase) = C ที่มีประสิทธิภาพเท่ากับ ๗๒.๔๕ /๗๑.๗๗ ซึ่ง สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด และมีความก้าวหน้าทางพัฒนาการการเรียนรู้เท่ากับ ๐.๕๑๒๘ หรือคิด เป็นร้อยละ ๕๑.๒๘ โดยกระบวนการวิจัยแบบร่วมมือเพื่อสร้างชุดการสอนวิทยาศาสตร์เพื่อพัฒนาความสามารถการคิดเชิงเหตุผลสำหรับนักเรียนมัธยมศึกษาอภิปรายผลการวิจัยได้ว่า กระบวนการวิจัยแบบร่วมมือสามารถทำให้การสร้างชุดการสอนเพื่อพัฒนาความสามารถการคิดเชิงเหตุผลของนักเรียนนั้นบรรลุเป้าหมายได้ คือ

๑. โดยความร่วมมือเป็นอย่างดีนั้นมาจากความสัมพันธ์อันดีระหว่างผู้วิจัย และผู้มีส่วนร่วม (Multiple Authorship and Collaboration) หรืออาจเรียกได้ว่าเป็นปัจจัยภายในที่เอื้อหรือสนับสนุนการวิจัย ปัจจัยภายในที่ได้แก่ ๑) ความสัมพันธ์เชิงบวกระหว่างบุคคลและบุคลิกภาพของความเป็นกัลยาณมิตร เอื้อเฟื้อแบ่งปัน น้อมน้อมซึ่งจะนำไปสู่ประสิทธิภาพของความร่วมมืออย่างหลากหลายรูปแบบ ๒) การมีวินัยหรือต้องสามารถควบคุมตนเองในแสวงหาความรู้ ทักษะกระบวนการ ๓) ความสามารถทางด้านวิชาการ ความสามารถในการวางแผนที่พอเหมาะสมกับการยอมรับ ความน่าเชื่อถือ ของบุคคลทั่วไป

๔) ประสบการณ์และการฝึกฝนของผู้วิจัยในการวิเคราะห์ พิจารณาไตร่ตรอง ผลกระทบ ความเป็นไปได้และการตัดสินใจที่ดี เหมาะสมที่สุด

๒. ปัจจัยภายนอกต่าง ๆ ที่จะมีผลต่อความร่วมมือ ได้แก่ ๑) การปรับเปลี่ยนรูปแบบหรือระดับข้อค้นพบหรือเป้าหมาย ๒) ความสามารถในการเพิ่มระดับอุปสงค์เรื่องความคิดที่ว่าการกระทำ ความเชื่อมาจากเหตุผลมากกว่าความรู้สึก อารมณ์ในการสร้างพลังร่วมของกระบวนการแสวงหาความรู้ ๓) การเปิดโอกาสให้แสดงความคิดเห็น จินตนาการอย่างสร้างสรรค์ภายในระเบียบ กฎเกณฑ์ ๔) วัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็นที่สนับสนุนเพียงพอ ๕) ความสามารถ เชี่ยวชาญพิเศษในกระบวนการแสวงหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ นำไปสู่แนวคิด ทฤษฎีและความมั่นใจใน การปฏิบัติ

๓. การหาประสิทธิภาพของชุดการสอนเพื่อการจัดการเรียนรู้ให้บรรลุเป้าหมายโดยเปรียบเทียบผลการทำกิจกรรมและทำแบบทดสอบในชุดการสอนกับเกณฑ์ ในระดับ ๗๐/๗๐ มีค่าคะแนนระหว่างการทำกิจกรรม (E๑) และคะแนนหลังการทำกิจกรรม (E๒) เท่ากับ ๗๒.๔๕ /๗๑.๗๗ ซึ่ง สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด แม้ว่าผลการสังเกตจะพบว่าช่วงแรกของการจัดกิจกรรมนักเรียนไม่คุ้นเคยและบอกผู้วิจัยว่าไม่สามารถทำได้

๔. ผลการดำเนินงานโดยภาพรวมการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาความสามารถการคิดเชิงเหตุผลของนักเรียนระดับมัธยมศึกษา พบว่า นักเรียนมีพัฒนาการความสามารถการคิด เชิงเหตุผลที่เป็นนามธรรมตามลำดับขั้นพัฒนาการทางเชาว์ปัญญาของ เพียเจต์ สูงขึ้นร้อยละ ๑๑.๕๖

`

กระบวนการสร้างชุดการสอนวิทยาศาสตร์เพื่อพัฒนาความสามารถการคิดเชิงเหตุผลสำหรับนักเรียนมัธยมศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาร้อยเอ็ด เขต 3 : การวิจัยแบบร่วมมือThe Constructional Process on Science Teaching and Learning Activity Module to Reasoning Ability Development for Mattayomsuksa Student Roi-Et Education Service Area Office 3 ; Collaborative Research is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 3.0 License.